หากใครเคยเฝ้ามองท้องฟ้าในเวลากลางคืนเพื่อดูแสงสวยงามของหมู่ดาว อาจจะพบกับดวงดาวที่ไม่ได้ส่องแสงสว่างอยู่ตลอดเวลา โดยมีการกะพริบบ้างเป็นครั้งคราว ทำให้มีช่วงเวลาที่ประกายระยิบระยับของแสงดาวหายไปเป็นเวลาสั้นๆ แล้วกลับมาส่องสว่างสวยงามขึ้นอีกครั้ง สิ่งนี้นำมาซึ่งข้อสงสัยว่า ดวงดาวสามารถส่งแสงกะพริบได้อย่างไร หรือดวงดาวสามารถเลือกช่วงเวลาในการเปล่งแสงของตนเองได้ คำตอบที่แท้จริงสามารถค้นพบได้ในบทความนี้
การที่เรามองเห็นว่าแสงของดวงดาวกะพริบนั้น นั่นไม่ใช่เพราะว่าดวงดาวสามารถเลือกเวลาในการเปล่งแสงของตัวเองแต่อย่างใด แท้จริงแล้วพวกดวงดาวที่มีแสงสว่างในตนเองอย่างเช่น ดาวฤกษ์ แสงที่ส่องสว่างออกมาเกิดจากพลังงานในตัวของดวงดาวที่ไม่สามารถควบคุมให้หยุดนิ่งได้ แล้วพลังงานเหล่านั้นก็ได้เดินทางผ่านมายังโลกในลักษณะของคลื่นแสง การเดินทางนี้ใช้เวลายาวนานในห้วงอวกาศกว่าจะถึงโลกของเรา ซึ่งในอวกาศไม่ได้มีความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศ แสงจึงสามารถเดินทางทะลุผ่านมาได้อย่างง่ายดาย จนกระทั่งเมื่อเดินทางเข้าสู่โลกของเราแล้วพบกับชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นของโลก สภาพอากาศและอุณหภูมิบนโลกส่งผลให้แสงดาวเกิดการหักเหแสงขึ้นระหว่างการเดินทาง ดังนั้น กว่าที่แสงดาวจะเดินทางมาส่องสว่างให้เราได้เห็นจึงดูคล้ายกับว่าแสงได้หายไปบ้างในบางชั่วขณะ เพราะมีการหักเหแสงไปทิศทางอื่นนั่นเอง
ดวงดาวนับเป็นหนึ่งสิ่งสวยงามที่ทำให้เราเรียนรู้ได้ว่าโลกนี้ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในจักรวาล แสงสว่างเป็นประกายนับล้านบนท้องฟ้าช่วยให้เรารู้ว่านอกอวกาศยังมีดวงดาวอยู่อีกมากมาย ดวงดาวบางดวงอาจเป็นดาวเคราะห์ที่ไร้สิ่งมีชีวิตอยู่อาศัย ดาวบางดวงอาจเป็นเพียงมวลอากาศอันหนาแน่นประกอบเข้าด้วยกัน แต่บางดวงก็อาจมีสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งมนุษย์เรายังต้องทำการศึกษาคว้าอีกมาก เพื่อสักวันหนึ่งเราจะสามารถเดินทางไปถึงดวงดาวทั้งหลายบนท้องฟ้าได้อย่างใจต้องการ
