ช่วงเวลาก่อนที่จะมีประจำเดือนหรือช่วงกำลังมีประจำเดือน ฮอร์โมนของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ส่งผลต่อร่างกายจนสามารถสังเกตได้ อาการหลักๆ ที่มักจะเกิดขึ้น คือ มีสิวขึ้น หน้าขยายอกใหญ่ หรือหากไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงตามร่างกายที่เห็นได้ชัด ก็จะเป็นความเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มากจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogens) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) โดยนอกจากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบข้างต้นที่กล่าวไปแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพของผู้หญิงในด้านอื่น โดยทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
อาการท้องเสียที่เกิดขึ้นในระหว่างมีประจำเดือนเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน คือ มีการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน และมีเซโรโทนินมากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ แต่คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก เพราะมันไม่ได้เป็นอันตรายมากนัก อาการท้องเสียที่เกิดขึ้นนั้นจะหายไปหลังที่ประจำเดือนหายไปได้ประมาณ 1 วัน
หากใครกังวลกับอาการท้องเสียที่เกิดขึ้นจนทำให้รู้สึกไม่ดี วิธีดูแลและป้องกันการเกิดอาการเหล่านี้ก็พอจะมีหนทางอยู่ นั่นคือเมื่อคุณอยู่ในระหว่างประจำเดือน คุณควรงดทานอาหารที่อาจจะทำให้ท้องเสียได้ง่าย เช่น อาหารหมักดอง อาหารรสจัดทุกชนิด เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด และรวมไปถึงอาหารที่มีรสเปรี้ยวอีกด้วย เพราะช่วงนั้นระบบย่อยอาหารจะทำงานไม่เต็มที่ จึงควรป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ไว้ก่อน อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจก็คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้อาการท้องเสียมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลงแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย!
