สำหรับหลายคนที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่า “การบ้าน” ก็คงจะมีข้อสงสัยในใจตั้งแต่สมัยเรียนว่า ทำไมต้องมีการบ้าน? แทนที่จะได้มีเวลาไปวิ่งเล่นกับเพื่อนแท้ๆ แต่นี่กลับต้องมานั่งทำการบ้าน หรือคัดอักษร ก-ฮ ต้องเสียเวลาไปตั้งนาน บางครั้งก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง แถมถ้าคัดผิด ครั้งหน้าก็ต้องกลับมาคัดตัวที่ผิดกลับไปส่งครูอีก ทำไมต้องมาเจอเรื่องที่โชคร้ายแบบนี้ตั้งแต่เด็กกันนะ ซึ่งหากเราปฏิเสธไม่ทำการบ้านตอนนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็คงจะลงโทษเด็กอย่างเราอย่างแน่นอน แล้วใครกันที่ทำให้มีการบ้านเกิดขึ้นกันนะ
จุดเริ่มต้นของการบ้าน
การบ้านมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายังไง เรามาดูกันดีกว่าว่าใครกันแน่ที่เป็นคนต้นคิดเรื่องนี้ หากพูดถึงจุดเริ่มต้นของการบ้านแล้ว คงจะต้องย้อนกลับไปในปี 1095 ในเมืองเวนิส เครดิตทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นของ Roberto Nevilis เพราะเป็นคนแรกๆ ที่ให้การบ้านกับเหล่านักเรียน ถึงแม้ว่าอาจจะมีคนอื่นอีกที่ทำแบบนี้ แต่เนื่องจากไม่มีการพบหลักฐานอะไรเพิ่มเติม หรือแม้แต่บันทึกของพวกเขา ฉะนั้นแล้ว ชื่อของผู้คิดค้นการบ้านจึงตกเป็นของ Roberto Nevilis
ความจริงในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มีการแนะนำการบ้านให้กับผู้เข้าสู่ระบบโรงเรียนอย่างเป็นทางการ สมัยก่อนมีเพียงคนที่มีฐานะดีเท่านั้นที่มีเวลาว่างในการศึกษา เรียกได้ว่าถ้าไม่รวยจริงก็คงไม่ได้เข้าโรงเรียน Nevilis ต้องการให้ลูกศิษย์ของเขาศึกษาและเข้าใจบทเรียนที่พวกเขาเข้าเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เขาจึงขยันให้การบ้านกับนักเรียนเป็นประจำ (แล้วก็ทำให้พวกเราลำบากกันจนถึงทุกวันนี้….)
ในสหรัฐอเมริกายังไม่มีการศึกษาอย่างจริงจังจนถึงศตวรรษที่ 20 เมื่อก่อนการเรียนหนังสือนั้นถือเป็นเรื่องน่ารำคาญอย่างมาก เนื่องจากเด็กๆ เหล่านั้นจำเป็นต้องอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเขา ซึ่งการเรียนเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ความคิดของผู้คนเปลี่ยนไป เมื่อโลกระบุว่าต้องการคนที่มีวุฒิการศึกษามากขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาทั่วโลก ผู้คนให้ความสนใจด้านการศึกษามากขึ้น เหตุนี้จึงทำให้การบ้านกลายเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษามาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง