สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกของเราต่างดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นมดหรือแมลง ทุกชีวิตต่างก็ต้องดิ้นรนเพื่อที่จะหาอาหารให้ตัวเองอยู่รอดได้ในแต่ละวัน แต่ว่าคนเรากลับมีสิ่งที่ต้องทำเยอะแยะยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นใด ทั้งที่เราได้มีวิวัฒนาการมากมาย สามารถคิดค้นเทคโนโลยีและสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิตของเราได้ แต่สุดท้ายเราก็ยังต้องทำงานหนักอยู่ดี พอคิดดูแล้วเหมือนจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เหตุใดคนเราถึงต้องทำงานด้วยล่ะ มนุษย์เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียงแค่หาอาหารกินไปวันๆ อย่างงั้นหรือ?
สำหรับผู้ที่กำลังรู้สึกสับสนในชีวิตจนไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกทางเดินไหนให้แก่ตัวเอง คำถามเช่นนี้อาจเกิดขึ้นมากมายในใจว่า “เราจะอยู่ไปทำไมนะ?” หรือ “เราจะทำงานทำไม” หรือ “เราจะทำสิ่งต่างๆ ไปเพื่ออะไร?” ปริศนาเหล่านี้เป็นหนึ่งในปริศนาปรัชญาชีวิตที่ไม่ได้มีคำตอบถูกต้องตายตัวแต่อย่างใด การใช้ชีวิตอยู่แบบหาอาหารกินไปวันๆ นั้นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่เหตุผลที่คนเราต้องทำงานนั้นเพราะเราไม่อาจอยู่ได้โดยปราศจากการพึ่งพาสังคมรอบข้างต่างหาก เมื่อเรามองไปยังสิ่งมีชีวิตรอบข้างก็จะพบว่าสัตว์ทั้งหลายล้วนแต่มีวิถีชีวิตในแบบของตนเอง พวกเขาพึ่งพาอาหารจากการหามาด้วยตนเอง แต่ในชีวิตของมนุษย์ทุกวันนี้ การหาอาหารกินเองตามธรรมชาติไม่ใช่ที่เรื่องสามารถทำได้โดยง่ายเลย
วิถีชีวิตของมนุษย์เรามีความเปลี่ยนแปลงช้าๆ มาอย่างยาวนาน จนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีเทคโนโลยีก้าวหน้ายิ่งกว่ายุคเก่าก่อน ตอนนี้คนเราจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นและดูดีอยู่เสมอ คนเราจะต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพ คนเราจะต้องดื่มน้ำสะอาดปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีหรือเชื้อโรค คนเราจะต้องพึ่งพาแสงสว่างจากหลอดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าก็จำเป็นต้องมีพลังงานในการขับเคลื่อนให้ตนเองทำงานต่อไปได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากไม่มีใครสร้างสรรค์มันขึ้นมา และหากไม่มีใครทำงานเพื่อให้สิ่ง เหล่านี้ดำเนินต่อไป มนุษย์เราก็จะไม่เหลืออะไรให้ใช้ประโยชน์ต่อไปได้เลย
คนส่วนใหญ่มักจะมีคำตอบในใจว่า การทำงานจะช่วยทำให้เรามีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ สามารถซื้อสิ่งของที่อยากได้ ใช้จ่ายเพื่อความสะดวกสบายได้ในแบบที่ตนเองต้องการ แท้จริงแล้ว การทำงานของคนเราไม่ใช่การทำเพื่อเงินเท่านั้น ทว่าการทำงานของคนแต่ละคนบนโลก สามารถช่วยส่งผลให้ชีวิตของผู้คนรอบข้างเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนั้นอาจเป็นไปได้ทั้งทางบวกและทางลบ ถึงแม้ว่าบางครั้งเราจะรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจจนอยากหนีไปจากความวุ่นวาย แต่เราก็ไม่ควรหลงลืมว่า ไม่ว่าจะอาหาร น้ำสะอาด ยารักษาโรค เสื้อผ้า หรือแม้แต่บ้านที่เราใช้อยู่อาศัย สิ่งเหล่านี้ต่างจำเป็นต้องใช้แรงของผู้คนสร้างมาเช่นกัน การที่เราเลือกไม่ทำงานใดๆ ก็คงคล้ายกับการเลือกที่จะหยุดตัวเองไม่ให้สร้างสิ่งต่างๆ ให้แก่ผู้อื่น ซึ่งนั่นก็ไม่นับว่าผิดอะไร เพราะหากวันหนึ่งชีวิตเจอเรื่องกดดันขึ้นมา การพักใจเพื่อดูแลตัวเองบ้างก็นับเป็นทางเลือกที่ดี แต่ขอให้พักอย่างเหมาะสมเท่านั้น ไม่งั้นนานไปเราจะยิ่งรู้สึกไร้ค่ายิ่งกว่าเดิม
สำหรับคนที่มีเงินมากมายจนไม่จำเป็นต้องทำงานหาเงินเลี้ยงชีวิต การใช้เงินเพื่อดูแลร่างกายและจิตใจตัวเองจะช่วยให้มีความสุขได้อย่างง่ายดาย แต่บางครั้งชีวิตก็มักจะล้อเล่นกับความรู้สึกจนนึกทนไม่ได้หากไม่ออกไปทำงานอะไร ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เราต้องการการยอมรับจากผู้คนรอบข้าง และลึกๆ แล้วเราทุกคนต่างก็มุ่งหวังให้ตนเองสามารถทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คนเราต้องทำงาน เพราะนอกจากการทำงานจะช่วยให้เราได้รับเงินมาดูแลชีวิตประจำวันของตนเองได้แล้ว การทำงานยังช่วยทำให้เรารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าต่อโลกใบนี้ได้อีกด้วย
