โลกของเราเต็มไปด้วยความลึกลับน่ามหัศจรรย์ชวนให้ค้นหาคำตอบอยู่มากมาย ธรรมชาติได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ไว้อย่างประณีตบรรจง หลายสิ่งยังคงดำเนินมาตราบตั้งแต่โบราณกาลมาจนถึงปัจจุบันทุกวันนี้ แต่ก็มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา สิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการขึ้นเพื่อให้สามารถมีดำรงอยู่ได้แม้ยุคสมัยเปลี่ยนไปจนไม่เหมือนเดิม หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตก็คือธรรมชาติแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะได้รับอิทธิพลมาจากดาวโลกของเราแล้ว ยังอาจได้รับผลมาจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวอื่นๆ ได้อีกด้วย น้ำขึ้นน้ำลงก็นับเป็นหนึ่งในเรื่องที่รับอิทธิพลมาจากสิ่งเหล่านี้เช่นกัน
ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงเกิดจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ โลกของเราและดวงจันทร์ต่างก็มีแรงโน้มถ่วงในตัวเอง ลักษณะของดาวโลกจะมีเปลือกโลกเป็นของแข็ง ดังนั้น ถึงแม้ว่าดวงจันทร์จะโคจรรอบโลกเราอยู่ตลอดเวลา ก็ไม่สามารถทำให้โลกของเราเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปเป็นรูปทรงอื่นได้แต่อย่างใด แต่เพราะผิวโลกปกคลุมด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้อิทธิพลของดวงจันทร์ส่งผลต่อระดับน้ำบนโลกได้ การโคจรรอบโลกของดวงจันทร์นั้นจะมีลักษณะเป็นวงรี ทำให้มีช่วงเวลาที่ดวงจันทร์จะเข้าใกล้โลกมากกว่าช่วงเวลาอื่นอยู่บ้าง ตำแหน่งที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้าใกล้โลกจะทำให้ปรากฏการณ์น้ำขึ้นและน้ำลงมากกว่าปกติ ส่วนตำแหน่งที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่ห่างจากโลกจะเกิดปรากฏการณ์นี้น้อยลง
การโคจรรอบโลกของดวงจันทร์นอกจากจะทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงได้แล้ว ดวงจันทร์ยังมีอิทธิพลต่ออัตราความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลกด้วย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการประมาณอัตราความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อโลกไว้ว่า ทุก 100 ปี โลกของเราจะหมุนช้าลงประมาณ 2.3 วินาที ซึ่งหมายความว่าในอนาคตอีกหลายร้อยปีหลายพันปีข้างหน้า การนับเวลาในแต่ละวันของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป โลกของเราจะมีวันเวลาในแต่ละวันมากกว่า 24 ชั่วโมง
