มีใครเคยรู้สึกสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมโลกของเราถึงมีฝนตก หยดน้ำที่หล่นลงมาจากท้องฟ้านั้นมาจากไหน แล้วฝนเกิดจากอะไร ทำไมถึงตกลงมา? ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน ช่วยทำให้เรารู้เรื่องราวๆ ที่เกิดขึ้นรอบโลกได้อย่างมีเหตุผล การที่ฝนตกนั้นก็มีสาเหตุมาจากความเปลี่ยนแปลงของเมฆที่อยู่บนท้องฟ้า เมื่อเมฆมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้เกิดฝนตกลงมา
เมฆประกอบด้วยละอองน้ำเล็กๆ มากมาย มีน้ำหนักหลายร้อยตัน เมื่อละอองเหล่านี้เติบโตขึ้น ในที่สุดมันก็จะหนักเกินกว่าที่จะแขวนลอยอยู่บนท้องฟ้าได้ สุดท้ายแล้วก็ตกลงสู่พื้นดินเป็นสายฝน ที่ทำให้พื้นป่าชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์ ดูแล้วสวยงามสบายตา
ก่อนฝนจะตกลงมาจะเกิดละอองบางส่วนตกลงมาในก้อนเมฆ และรวมตัวกันก่อเกิดมวลอากาศแขวนลอย แล้วเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าหากพวกละอองนั้นรวมตัวเพิ่มมากขึ้นและหนักจนเกินกว่าก้อนเมฆจะสามารถรับไว้ได้ มันก็จะทำปฏิกิริยาจนเกิดมาเป็นสายฝนในที่สุด
อากาศที่อุ่นก็สามารถทำให้เกิดฝนได้เช่นกัน เคยสังเกตไหมว่าทุกครั้งก่อนที่ฝนจะตก อากาศบริเวณรอบตัวของเรานั้นจะเริ่มเปลี่ยนไป ความชื้นในอากาศจะเพิ่มขึ้นมาที่ละน้อย ทำให้เรารู้สึกเหนียวตัวและสัมผัสถึงอากาศที่อบอ้าวแบบผิดปกติ อากาศอุ่นสามารถกักเก็บความชื้นได้ดีมากกว่าอากาศที่เย็น เมื่ออากาศอุ่นขึ้นจะถูกทำปฏิกิริยาทำให้เย็นลง และเมื่อความชื้นรวมตัวกันมากๆ ฝนก็มักจะตกหนักนั่นเอง
หลายครั้งที่อากาศก่อนฝนตกทำให้เราหงุดหงิด แต่เรื่องนี้ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมา การจะให้ไปหยุดปรากฏการณ์เหล่านี้คงเป็นเรื่องที่ยากทีเดียว อย่างน้อยเราก็สามารถรู้เหตุผลว่าทำไมฝนถึงตกได้ แต่ก็ยังมีคำถามอีกมากมายที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้เช่นเดียวกัน